โรคเด็ก

joom February 6, 2021

ในยุคสมัยนี้ได้มีโรคเกิดขึ้นมากมายมีทั้งโรคติดต่อและโรคทางพันธุกรรม แม้แต่ในเด็กเองก็ยังมีโรคเฉพาะเจาะจงสำหรับพวกเขา ซึ่งก็มีแนวโน้มการระบาดของโรคในเด็กพอ ๆ กับผู้ใหญ่เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีเหมือนกับแต่ก่อน จึงทำให้ โรคในเด็ก เริ่มจะมีความเสี่ยงมากขึ้น และบางโรคก็อันตารายเสียชีวิตได้ และสำหรับคุณแม่ก็ควรที่จะศึกษาเอาไว้เช่นกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับลูกน้อยของเรา โดยมี 3 โรคที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กเสมอมีดังต่อไปนี้ 3 โรคในเด็ก ที่พบบ่อย คุณแม่ทุกคน ต้องทำความรู้จัก โรคติดเชื้อไวรัสโรต้า ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้หากติดเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้ระบบทางเดินอาหารมีปัญหาขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะอาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ รวมไปถึงอาการไข้สูง โดยโรคในเด็กชนิดนี้หากรักษาไม่ทันก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ จากอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง แต่ในปัจจุบันโรคชนิดนี้ก็มีวัคซีนป้องกันเพื่อไม่ให้โรคเกิดความรุนแรง อีกทั้งยังถือว่าเป็นโรคระบาดที่ไม่ควรมองข้ามเลย โรคRSV โรค RSV ถือเป็นโรคในเด็กที่มีความเสี่ยงเสียชีวิตมากที่สุด เพราะไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปทำลายระบบหายใจของเด็ก ซึ่งทำให้ระบบหายใจล้มเหลวแบบเฉียบพลันได้ โดยอาการเริ่มต้นจะเป็นเหมือนหวัดทั่วไป แต่จะเริ่มรุนแรงขึ้นตามลำดับ สามารถสังเกตได้จากอาการไอและหอบหนักมากว่าปกติ และโรคนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการเท่านั้นเอง อีกทั้งยังพบการระบาดหนักสุดในช่วงกำลังจะหมดฝนเข้าสู่ฤดูหนาว โรคมือเท้าปาก ถือเป็นโรคยอดฮิตในเด็กเลยก็ว่าได้ เพราะการแพร่เชื้อและการติดต่อนั้นสามารถติดต่อได้ง่ายมาก เพียงแค่สัมผัสหรือหยิบสิ่งของชนิดเดียวกันก็สามารถเป็นโรคนี้ได้แล้ว และโรคมือเท้าปากนี้นับวันก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเลย ๆ อีกทั้งมีความซับซ้อนมากกว่าโรคในเด็กชนิดอื่น ๆ เนื่องจากว่าแต่ละปีจะมีการกลายพันธุ์ของเชื้อชนิดนี้ และที่มีผลต่อระบบร่างกายของเด็กเป็นอย่างมาก โดยอาการ จะมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่มือ เท้า […]

joom December 13, 2020

เป็นเรื่องปกติที่ตัวคุณพ่อและคุณแม่ก่อนการตั้งครรภ์ต้องตรวจโรคร้ายต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนเพราะ โรคบางอย่างเป็นกรรมพันธ์และมีโอกาสอย่างมากในการติดต่อจากเชื้อของพ่อแม่สู่ลูกหลานได้ ยิ่งบางคนที่เป็นพาหะยิ่งน่ากลัวเพราะโรคที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดที่ตัวเองแต่ตัวเรากลับเป็นพาหะที่สามารถนำโรคเหล่านี้ไปสู่ตัวลูกได้แบบไม่รู้ตัว เป็นเหตุให้ยุคนี้มีการตรวจโรคก่อนการวางแผนจะมีบุตรนั่นเอง เรามาดูโรคร้ายที่เราต้องระวังกันหน่อยดีกว่า โรคร้ายที่ต้องระวัง อาจติดจากแม่สู่ลูกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว! มารู้จัก โรคร้ายที่ต้องระวัง ที่อาจติดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้ 1. ธาลัสซีเมีย – โรคร้ายที่ต้องระวัง อาจติดจากแม่สู่ลูกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคเลือดจาง เป็นโรคร้ายที่อันตรายมากกับตัวเด็ก สามารถติดได้ทั้งจากฝ่ายพ่อและแม่ ซึ่ส่วนใหญ่จะเป็นพาหะแฝงมาแล้งมาลงที่ตัวลูกเสียมากกว่า ทั้งนี้จะสามารถตรวจเจอในเด็กได้ตั้งแต่อายึประมาณหกเดือนไปจนถึงหนึ่งปี สามารถสังเกตด้วยสายตาได้ว่าเด็กจะมีความตัวซีดผิดปกติ บางรายอาจมีความผิดปกติทางด้านกระดูกด้วยทำให้หน้าตาผิดรูปไป ฟันเหยินออกมา ภายในร่างกายระบบม้ามจะผิดปกติ มีขนาดโตกว่าปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กที่เกิดออกมาเป็นธาลัสซีเมียควรตรวจเชื้อของทั้งพ่อแม่ให้เรียบร้อยก่อน และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าสามารถมีลูกได้หรือไม่ 2. ฮีโมฟีเลีย – โรคร้ายที่ต้องระวัง อาจติดจากแม่สู่ลูกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว โรคนี้เป็นโรคที่แทบดูไม่ออกเลยว่าพ่อแม่คนไหนมีอาการแบบนี้เพราะเป็นโรคที่ทำให้ผิวหนังของเด็กที่คลอดออกมามีความอ่อนแอ เกิดการฟกช้ำได้ง่าย เพียงการกดกระแทกแรง ๆ ก็สามารถทำให้เลือดออกและเป็นแผลช้ำได้แล้ว ถือเป็นโรคที่ดูไม่รุนแรงแต่อันตรายและต้องระวังให้อยู่ในสายตาตลอด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุใหญ่เลือดอาจไหลไม่หยุดและทำให้เสียชีวิตได้ 3. G6PD – โรคร้ายที่ต้องระวัง อาจติดจากแม่สู่ลูกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว โรคที่ทำให้เลือดในตัวเด็กมีความผิดปกติ มีตัวซีดเหลือง นับเป็นความผิดปกติของยีนส์อย่างหนึ่ง เป็นโรคที่ถ่ายทอดจากตัวแม่สู่ลูก ซึ่งลูกชายจะมีโอกาสได้รับยีนส์ตัวนี้มากกว่าลูกสาว อย่างไรก็ตามหากตรวจพบว่าทางฝ่ายแม่อาจมีความผิดปกติของยีนส์ได้ สามารถใช้วิธีทำเด็กหลอดแก้วแทนเพื่อให้ได้ยีนส์ตัวที่แข็งแรงเพื่อลูกที่ออกมามีความปกตินั่นเอง ติดตามบทความ แม่และเด็ก เรื่องราวดีๆเกี่ยวกับ การเลี้ยงลูก เทคนิควิธีการดูแลลูก ได้ที่นี้

joom December 1, 2020

            ออทิสติก (Autistic) เป็นความบกพร่องของพัฒนาการเด็กที่แสดงอาการออกมาตั้งแต่ยังเป็นทารก ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติในการเลี้ยงดู แต่เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ซึ่ง เด็กออทิสติก มักมีอาการลมชัก ไข้สูง หรือมีคลื่นสมองผิดปกติ ต้องรับยาทันที ลักษณะ อาการ เด็กออทิสติก            สมอง เด็กออทิสติก มีลักษณะผิดปกติสองแห่ง คือสมองส่วนที่ควบคุมความจำ อารมณ์ และแรงจูงใจ กับสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย  ส่งผลถึงความบกพร่องของพัฒนาการด้านสังคมและภาษาพูด ทำให้เด็กมีอาการหรือแสดงพฤติกรรมที่ซ้ำๆ               สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งได้ลูกน้อยเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว ควรสังเกตลูกของคุณตั้งแต่วัยทารก ว่าเขาสบตากับพ่อแม่หรือสบตาคนอุ้มหรือไม่ เพราะ เด็กออทิสติก จะแสดงอาการไม่สบตาใคร ร้องไห้งอแงเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเกิดเสียงก็จะไม่แสดงอาการหันไปตามเสียง หรือไม่เล่นกับเสียง             หลังจากนั้น ช่วงสองขวบปีแรกถ้าเด็กปกติจะเริ่มหัดพูด แต่เด็กออทิสติกจะไม่ยอมพูด หรืออาจพูดออกมาเป็นคำแล้วหยุดพูด หากคุณสอนเขาให้พูด เด็กออทิสติกจะพูดตามได้แต่ไม่ทราบความหมาย และมักมีอาการพูดทวนคำซ้ำๆ แทบไม่สนใจคนรอบข้าง และสนใจเฉพาะของเล่นบางประเภท  เวลาเล่นอะไรก็เล่นคนเดียว ชอบทำอะไรซ้ำเดิม ไม่สนใจฟังเสียงเรียกของคุณพ่อคุณแม่ และยังมีอาการไม่สบตากับใครเช่นเดิม             เด็กออทิสติก มักจะเป็นเพศชายมากกว่าหญิงถึงสี่เท่า ในช่วงสองถึงสามขวบ เด็กจะมีปัญหาเรื่องการพูด หรือการสื่อความหมายและการใช้ภาษา […]